ประวิตัและความสำคัญของพระพุทธศาสนา







การสังคายนา
                ก็ คือการประชุมตรวจชำระสอบทาน พระธรรมวินัยให้เข้าเป็นหมู่เดียวกัน เพื่อประโยชน์แก่การศึกษา การสังคายนานี้เมื่อจะนับตั้งแต่เมื่อทำในประเทศอินเดีย ศรีลังกา พม่า และไทย ก็มีหลายครั้งด้วยกันดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
สังคายนาครั้งที่ ๑ (ในประเทศอินเดีย)
                สืบเนื่องมาจาก เหตุที่หลวงตารูปหนึ่ง ชื่อว่าสุภัททะ ได้พูดกับพวกภิกษุที่มีความเศร้าโศกเสียใจขณะที่ได้ทราบข่าวว่าพระพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว เมื่อครั้งพระมหากัสสปะพาเดินทางไปทำศพของพระพุทธเจ้า โดยบอกว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพานนะดีแล้ว จะไม่ได้ห้ามอะไรเราอีก ต่อไปนี้เราจะทำอะไรก็ได้ดั้ง นี้ เมื่อทำการเผาพระศพพระพุทธเจ้าแล้ว พระมหากัสสปะก็ได้ปรารภเรื่องที่หลวงตานั้นพูด ให้กับคณะสงฆ์ฟัง และเพื่อหาทางป้องันไม่ให้เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีก จึงได้นัดประชุมสงฆ์ เพื่อทำการสังคายนาขึ้น
การสังคายนาครั้งนี้
- มีพระมหากัสสปะเป็นประธานและเป็นผู้ถาม
- มีพระอุบาลีเป็นผู้ตอบในด้านวินัย
- มีพระอานนท์เป็นผู้ตอบในด้านธรรม
- มีพระสงฆ์ (อรหันต์ทั้งหมด) ร่วมประชุม ๕๐๐ รูป ทำอยู่ ๗ เดือนจึงสำเร็จ ได้พระ
เจ้าอชาตศัตรูเป็นผู้ให้การอุปถัมภ์ ทำที่ถ้ำสัตตบรรณคูหา ข้างภูเขาเวภาระใกล้กรุงราชคฤห์
การสังคายนาครั้งที่ ๒ (ในประเทศอินเดีย)
                การสังคายนา ครั้งนี้ปรารภเหตุที่ภิกษุวัชชีบุตร ในเมืองไพศาลีได้ประพฤติย่อหย่อนพระธรรมวินัย ๑๐ ข้อ เช่น ตะวันบ่ายไปแล้ว ๒ นิ้ว ก็ฉันอาหารได้ เป็นต้น
                เพื่อที่จะชี้ แจงให้เข้าใจกันโดยถูกต้อง พระยสกากัณฑกบุตร ได้ชักชวนพระเถระทั้งหลายทำสังคายนาขึ้น โดยมีพระเรวตะเป็นผู้ถาม พระสัพพกามีเป็นผู้ตอบปัญหาในทางวินัยที่เกิดขึ้น มีพระสงฆ์ร่วมประชุม ๗๐๐ รูป ทำที่วาลิการาม เมืองไพศาลี แคว้นวัชชี ทำอยู่ ๘ เดือน เมื่อ พ.ศ.๑๐๐ ได้มีพระจ้ากาลาโศกราชเป็นองค์อุปถัมภ์
การสังคายนาครั้งที่ ๓ (ในประเทศอินเดีย)
                การทำสังคายนา ครั้งนี้ สาเหตุก็คือปรารภเหตุที่คนนอกศาสนาปลอมบวชกันมาก เพราะหวังลาถคนเหล่านั้นเมื่อมาบวชก็ยังมีความเชื่อตามศาสนาเดิมของตนอยู่ และได้สอนผู้คนไปตามความเชื่อนั้น ทำให้คนต่างพากันสอนไปตามความเชื่อของคน จึงทำให้พระสงฆ์แท้ไม่ยอมลงอุโบสถสังฆกรรมร่วมกับภิกษุปลอมเหล่านั้นอยู่นาน หลายปี พระเจ้าอโศกจึงใช้อำนายกำจัดพระปลอมเหล่านั้นให้สึกไปถึง ๖๐,๐๐๐ คน จากนั้น พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ จึงได้รวบรวมพระสงฆ์ทำสังคายนาขึ้น โดยมีท่านเองเป็นผู้ถาม พระมัชฌันติกเถระ และพระมหาเทวเถระเป็นผู้แก้ มีพระสงฆ์ร่วมประชุม ๑,๐๐๐ รูป ทำที่อโศการาม เมืองปาตลีบุตร เมื่อ พ.ศ.๒๓๔ ทำอยู่ ๙ เดือนจึงสำเร็จ มีเจ้าอโศกมหาราช (ศรีธรรมาโศกราช)เป็นผู้อุปถัมภ์
                เมื่อเสร็จการ สังคายนาครั้งนี้แล้ว พระเจ้าอโศกได้ส่งพระสงฆ์ออกไปประกาศพระศาสนาในต่างแดนทั้งหมด ๙ สายด้วยกัน สายหนึ่งได้เดินทางมาประกาศพระศาสนาแถบประเทศไทยเรา(สุวรรณภูมิ) มีหัวหน้า ๒ รูป คือ พระโสภณะ กับ พระอุตตระ ไทยเราจึงได้รับศาสนาพุทธตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
การสังคายนาครั้งที่ ๔ (ในลังกา)
                หลังจากการ สังคายนาครั้งที่ ๓ แล้ว พระเจ้าอโศกได้ส่งพระไปประกาศพระศาสนาในต่างแดน สายหนึ่งโดยการนำของพระมหินทเถระ ซึ่งเป็นบุตรของพระเจ้าอโศกเอง ได้ไปยังประเทศศรีลังกา(กังลาทวีป)ในปัจจุบันนี้ ไปถึงท่านได้แสดงธรรมแก่พระเจ้าเทวานัมปิยติสสเถระเลื่อมใส และอาศัยความใคร่จะให้ศาสนามั่นคงในลังกานี้ท่านจึงรวมพระสงฆ์ขึ้นทำ สังคายนา โดยท่านเองเป็นประธานและเป็นผู้ถาม พระอริฏฐ เป็นผู้แก้ มีพระสงฆ์ร่วมประชุม ๖๘,๐๐๐ รูป ทำที่ถูปาราม เมืองอนุราธบุรี เมื่อ พ.ศ. ๒๓๖ ทำอยู่ ๑๐ เดือนจึงสำเร็จ ได้มีพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ เป็นผู้อุปถัมภ์
การสังคายนาครั้งที่ ๕ (ในลังกา)
                ในการสังคายนา ในครั้งนี้ ปรารภเหตุที่ว่า ต่อไปในอนาคตจะมีผู้ท่องจำพระพุทธพจน์ได้น้อย และอาจจะมีข้อวิปริตผิดพลาดได้ง่าย เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้พระธรรมวินัยผิดพลาดจึงได้ตกลงกันว่า ควรจารึกคำสอนลงในใบลานครั้งนี้ ได้มีพระพุทธธัตตะ เป็นประธาน มีพระสงฆ์เข้าร่วมประชุม ๕๐๐ รูป ทำที่อาโสกเลณสถานในมลัยชนบท ในประเทศศรีลังกา เมื่อ พ.ศ. ๔๕๐ ได้พระเจ้าวัฏฏคามินีอภัย เป็นผู้อุปถัมภ์ ทำอยู่ ๑ ปี จึงสำเร็จ

๑. การทำสังคายนาครั้งที่ ๑ ถึงครั้งที่ ๕ ปรารภเหตุอะไร ?
ครั้งที่ ๑ ปรารภสุภัททะกล่าวจ้วงจาบพระธรรมวินัย
ครั้งที่ ๒ ปรารภภิกษุวัชชีบุตรแสดงวัตถุ ๑๐ ประการ
ครั้งที่ ๓ ปรารภเดียรถีย์ปลอมบวช
ครั้งที่ ๔ ปรารภให้ศาสนามั่นคงในอินเดีย
ครั้งที่ ๕ ปรารภเพื่อจารึกคำสอนลงในใบลาน
๒. ในการทำสังคายนาแต่ละครั้ง ใช้เวลานานเท่าไร ?
ครั้งที่ ๑ ใช้เวลา ๗ เดือน
ครั้งที่ ๒ ใช้เวลา ๘ เดือน
ครั้งที่ ๓ ใช้เวลา ๙ เดือน
ครั้งที่ ๔ ใช้เวลา ๑๐ เดือน
ครั้งที่ ๕ ใช้เวลา ๑๒ เดือน (๑ ปี)
๓. ในการทำสังคายนาแต่ละครั้ง มีพระสงฆ์เข้าร่วมประชุมครั้งละเท่าไร ?
ครั้งที่ ๑ มีพระสงฆ์ ๕๐๐ รูป
ครั้งที่ ๒ มีพระสงฆ์ ๗๐๐ รูป
ครั้งที่ ๓ มีพระสงฆ์ ๑,๐๐๐ รูป
ครั้งที่ ๔ มีพระสงฆ์ ๖๘,๐๐๐ รูป
ครั้งที่ ๕ มีพระสงฆ์ ๕๐๐ รูป
๔. ในการทำสังคายนาแต่ละครั้ง มีใครเป็นประธาน ?
ครั้งที่ ๑ พระมหากัสสปะ เป็นประธาน
ครั้งที่ ๒ พระยสะ กากัณฑากบุตร เป็นประธาน
ครั้งที่ ๓ พระโมคคัลลีบุตร เป็นประธาน
ครั้งที่ ๔ พระมหินทเถระ เป็นประธาน
ครั้งที่ ๕ พระพุทธทัตตะ เป็นประธาน
๕. ในฝ่ายฆราวาส มีใครให้การอุปถัมภ์ในการทำสังคายนาแต่ละครั้ง ?
ครั้งที่ ๑ พระเจ้าอชาตศัตรู อุปถัมภ์
ครั้งที่ ๒ พระเจ้ากาลาโศกราช อุปถัมภ์
ครั้งที่ ๓ พระเจ้าอโศกมหาราช อุปถัมภ์
ครั้งที่ ๔ พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ อุปถัมภ์
ครั้งที่ ๕ พระเจ้าวัฏฏคามินีอภัย อุปถัมภ์
๖. การสังคายนาในประเทศอินเดีย ทั้งหมดที่มีการรับรองและไม่รับรองกี่ครั้ง ?( ๔ ครั้ง พ.ศ.๓,๑๐๐,๒๓๔, ๖๔๓)
๗. ในลังกา มีทั้งหมดกี่ครั้ง ? ( ๓ ครั้ง พ.ศ. ๒๓๘ - ๔๕๐ - ๒๔๐๘)
๘. พม่า ทั้งหมดกี่ครั้ง ? ( ๒ ครั้ง พ.ศ. ๒๔๑๔ - ๒๔๙๗ )
๙. ในไทยเรามีการสังคายนากี่ครั้ง ? (๕ ครั้ง พ.ศ. ๒๐๒๐ - ๒๓๓๑(ร.๑)๒๔๓๖(ร.๕) ๒๔๖๘(ร.๗) ๒๕๒๘(ร.๙)
๑๐. ลองบอกเรื่องราวเกี่ยวกับพระไตรปิฎกในเมืองไทยมาพอสังเขป ?
ครั้งที่ ๑ ชำระและจารึกลงในใบลานทำที่เชียงใหม่ สมัยพระเจ้าโลกราช พ.ศ. ๒๐๒๐
ครั้งที่ ๒ ชำระและจารึกลงในใบลานทำที่วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ สมัยรัชกาลที่ ๑ พ.ศ. ๒๓๓๑
ครั้งที่ ๓ ชำระและพิมพ์เป็นเล่ม ทำที่กรุงเทพฯ สมัยรัชกาลที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๓๑ ถึง พ.ศ. ๒๔๓๖
ครั้งที่ ๔ ชำระและพิมพ์เป็นเล่ม ทำที่กรุงเทพฯ สมัยรัชกาลที่ ๗ พ.ศ. ๒๔๖๘ ถึง พ.ศ. ๒๔๗๓
ครั้งที่ ๕ ชำระและพิมพ์เป็นเล่ม ทำที่กรุงเทพฯ สมัยรัชกาลที่ ๙ พ.ศ. ๒๕๒๘ เพื่อเป็นการฉลอง ๖๐พรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ